XM เป็นอีกโบรกเกอร์ขนาดใหญ่ที่ผมนำมาจัดอันดับ พวกเขาได้รับการควบคุมจากองค์กรชั้นนำเช่น CySEC, ASIC, และ FCA ทำให้การซื้อขายที่นี่มีความปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
ผมเลือก XM เพราะ Micro account ที่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำและขนาดล็อตที่ต่ำ ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดที่พึ่งเริ่มต้น โดยที่ยังค่าสเปรดที่ต่ำหรือเสนอการเทรดตลาดที่หลากหลาย
ข้อดีของ XM:
- Micro account ซึ่งเป็นบัญชีที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น
- สเปรดต่ำ
- ไม่มีการปฏิเสธราคาหรือการขอให้เทรดใหม่
- ตลาด CFD ที่หลากหลาย
บัญชี Micro ที่ XM เป็นแบบออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น
ด้วยบัญชีแบบ Micro ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งเมื่อต้องเปรียบเทียบโบรกเกอร์ ซึ่งคุณสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยการฝากขั้นต่ำเพียง $5 เท่านั้น ทำให้คุณเริ่มเทรดโดยมีความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำมาก
ข้อดีหลักๆ ของบัญชี Micro คือการลดขนาดล็อตลงเหลือ 1,000 หน่วย ซึ่งช่วยให้การจัดการความเสี่ยงเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น นอกจากการฝากขั้นต่ำที่ต่ำ บัญชี Micro ยังคงค่าสเปรดที่แข่งขันได้ ซึ่งผมพบว่าสเปรดเริ่มต้นที่หนึ่งพิปสำหรับ EUR/USD และไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน ซึ่งทำให้คุณมีกำไรมากขึ้น
สิ่งผมชื่นชอบอีกประการหนึ่งคือ คุณสามารถเข้าถึงตลาดกว่า 1,000 รายการ จาก บัญชี Micro ของ XM ในขณะที่บางโบรกที่มีบัญชีเซ็นต์/ไมโครอาจจำกัดตัวเลือกการเทรดไปที่ทองคำและคู่เงินหลักเท่านั้น
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงทางการเงินในทันที XM ยังมีบัญชีเดโม่ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อการทดลองใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ ของ XM เช่น MT4 และ MT5
ไม่มีการเรียกให้เทรดใหม่และไม่มีการปฏิเสธราคา
อีกข้อได้เปรียบสำหรับผู้เริ่มต้นที่ใช้งาน XM คือนโยบายที่ไม่มีการเรียกให้เทรดใหม่และไม่มีการปฏิเสธราคา (no requotes and no price rejections policy) ซึ่งหมายความว่าราคาที่คุณคลิกเพื่อทำการเทรดคือราคาที่คุณจะได้รับ แม้ในเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง
โบรกเกอร์อื่นๆ มักจะมีการเรียกให้เทรดใหม่หรือปฏิเสธคำสั่งในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง ผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หลายครั้งและมันทำให้ผมสูญเสียเงิน ดังนั้นผมจึงใส่ใจเป็นพิเศษในการเลือกโบรกเกอร์ที่มีนโยบายเหล่านี้
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ XM
ผมคิดว่าบัญชี Micro ของ XM เป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมจากโบรกเกอร์ จากบัญชีทดลองไปสู่บัญชีจริงโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินมากนัก การปรับแต่งบัญชีให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเทรดมือใหม่ทำให้การเทรดง่ายขึ้น
บัญชี Micro เหมาะสำหรับการพัฒนาทักษะในการเทรดและเพิ่มความมั่นใจในการซื้อขาย นอกจากนี้ นโยบายในการไม่มีการเรียกให้เทรดใหม่หรือปฏิเสธราคายังช่วยปกป้องนักเทรดจาก slippage ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินในระยะยาวได้
Exness - โบรกเกอร์ MetaTrader 4 ที่นำเสนอเลเวอเรจสูง
Exness เป็นโบรกเกอร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่นอกเกาะ ที่ได้รับเสียงชื่นชมในการให้บริการการเทรดที่เสถียรสำหรับนักเทรดชาวไทย ผมเพิ่ม Exness เข้าไปในการจัดอันดับเนื่องจากพวกเขามีเลเวอเรจสูงที่สุดที่ผมทดสอบมา และยังมีเงื่อนไขการเทรดชั้นยอดบนแพลตฟอร์ม MT4 และยังมีสเปรดที่แข่งขันได้อีกด้วย
ข้อดีของ Exness:
Exness รองรับ MetaTrader 4 ด้วยบริการระดับท็อป
ส่วนใหญ่โบรกเกอร์ล้วนรองรับ MetaTrader 4 อย่างไรก็ตาม ผมพบว่า Exness นั้นที่ดีที่สุด โดยการทดสอบด้วย MT4 ชี้ให้เห็นว่าคุณจะสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือการซื้อขายมากกว่า 30 แบบ ตัวอย่างเช่น ตัวบ่งชี้การซื้อขายและเครื่องมือวาดภาพ เช่น Ichimoku และ Fibonacci retracement tools
นอกจากนี้ Exness ยังปรับปรุงแพลตฟอร์ม MT4 โดยการผสมเอา Trading Central เข้าไป โดยพวกเขาเป็นผู้ให้บริการสัญญาณการซื้อขายที่ดีที่สุด ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ breakout และ price action
นอกจากนี้ Exness ยังทำให้คุณสามารถเทรดได้โดยอัตโนมัติบนแพลตฟอร์มตลอด 24 ชั่วโมงผ่านบริการ VPS ฟรี ที่มีข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการเข้าถึงคืออย่างน้อย 7.5 ล็อตต่อเดือน ซึ่งผมคิดว่าเป็นเกณฑ์ที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่น
เลเวอเรจสูงสุด to 1:2000
Exness มีเลเวอเรจสูงสุดในทดสอบของผม โดยสูงถึง 1:2000 ในคู่สกุลเงินหลัก
เหตุผลที่ Exness สามารถให้เลเวอเรจที่สูงขนาดนี้ได้เนื่องจากได้รับการควบคุมจาก Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์ และ British Virgin Islands Financial Services Commission ซึ่งอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจได้มากกว่า
การมีเลเวอเรจนี้ ผมมองว่ามันน่าสนใจในหมู่นักเทรดที่มีประสบการณ์ที่สามารถขยายการเทรดของพวกเขาได้มากกว่าจากที่โบรกเกอร์อื่นให้เลเวอเรจเพียง 1:500 เช่นกัน ตัวอย่างเช่น นักเทรดอัลโก้ที่มีกลยุทธ์ที่ได้รับการยืนยันและมีการจัดการความเสี่ยงสามารถใช้เลเวอเรจที่สูงเพื่อเพิ่มขนาดในการเปิดตำแหน่งโดยไม่เสี่ยงลงทุนมากขึ้น
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ Exness
Exness เป็นโบรกเกอร์ที่ผมชื่นชอบในฐานะโบรกเกอร์ MetaTrader 4 ที่มีสเปรดที่แข่งขันได้ มีเครื่องมือการซื้อขายที่ล้ำสมัย และบริการ VPS มันจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดอัลกอริทึม และผมยังชื่นชมการเสนอเลเวอเรจที่สูงสุดถึง 1:2000 ที่ช่วยให้คุณสามารถขยายการเทรดเพิ่มขึ้นได้โดยง่าย
TickMill - โบรกเกอร์ที่มีค่าคอมมิชชันต่ำที่สุด
TickMill เป็นโบรกเกอร์หน้าใหม่ที่ก่อตั้งในปี 2011 โดยมีบัญชีที่ลงทะเบียนด้วยมากกว่า 750,000 บัญชีและมีการเทรดมากกว่า 625,000,000 ครั้งตั้งแต่เปิดตัวมา
และผมเลือก TickMill เข้ามาอยู่ในการจัดอันดับก็เพราะชุดเครื่องมือการซื้อขายที่โดดเด่นที่ส่งเสริมแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ 5 ที่มาพร้อมกับข้อค่าคอมมิชชันที่ต่ำ
ข้อดีของ TickMill:
ความหลากหลายของเครื่องมือการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5
สเปรดที่พอดีตั้งแต่ 0.15 pips บนบัญชีแบบ Raw
ความหลากหลายของตลาดเงินตรา
ค่าคอมมิชชันการเทรดที่ต่ำ
เครื่องมือการซื้อขายหลายรายการสำหรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MetaTrader 5
ในการทดสอบการเทรดที่ TickMill ผมพบว่าโบรกเกอร์ลงทุนอย่างมากเพื่อให้ได้เครื่องมือการซื้อขายที่ดีที่สุด เพื่อเสริมแต่งแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MT5 ตั้งแต่ Expert Advisors และตัวบ่งชี้ขั้นสูงใน Advanced Trading Toolkit ไปจนถึงบริการเทรดอัตโนมัติเช่น Capitalise.ai
หนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ผมชอบใช้คือ Autochartist ซึ่งช่วยสแกนได้หลายช่วงเวลาและเครื่องมือเพื่อหารูปแบบแผนภูมิ ระดับ Fibonacci หรือการพังทลายจากระดับราคา เครื่องมือเหล่านี้ช่วยประหยัดเวลาและให้ภาพรวมเกี่ยวกับโอกาสการซื้อขายที่เป็นไปได้ในแต่ละวัน
สิ่งที่โดดเด่นสำหรับผมคือ TickMill มีเวอร์ชันปลั๊กอิน MT4/MT5 ที่ช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและวิเคราะห์การวิเคราะห์ทางเทคนิคภายในแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณได้อย่างง่ายดาย
เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น คุณสามารถใช้เครื่องมือ Acuity Trading เพื่อใช้ข้อมูลความรู้สึกของตลาดโดยตรงแบบเรียลไทม์จากแหล่งข่าว เช่น Dow Jones ซึ่งช่วยให้คุณสร้างไอเดียการซื้อขายที่เฉพาะเจาะจงได้ดียิ่งขึ้น
รับค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำที่สุด
ในการทดสอบของผม พบว่าค่าคอมมิชชันของ TickMill บนบัญชี Raw อยู่ในระดับต่ำสุดที่ $3.00 ต่อล็อตการซื้อขาย และค่านี้ถือเป็นหนึ่งในต่ำสุดที่ผมพบในการทดสอบ
มันช่วยให้คุณประหยัดเฉลี่ย $0.50 เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่น จึงทำให้ TickMill เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดที่ต้องการลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายนั่นเอง