การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ยอดเยี่ยมเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดที่คุณจะต้องทำในฐานะนักเทรด โดยเฉพาะเมื่อต้องมองหาโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยสำหรับปี 2024 ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการเทรดโดยรวมของคุณ และแน่นอนว่าจะส่งผลถึงความสำเร็จในการทำกำไรของคุณด้วย
ในการรีวิวโบรกเกอร์ของผม ผมมักจะพิจารณาจากคุณสมบัติหลัก เช่น สเปรดที่ต่ำ ความรวดเร็วในการดำเนินการซื้อขาย สินทรัพย์ที่หลากหลาย และแพลตฟอร์มการเทรดที่มีเครื่องมืออย่างครบถ้วน
โดยผมได้ทำการตรวจสอบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์มากกว่า 40 ราย ด้วยการเปิดบัญชีจริง วางออเดอร์จริง และประเมินทุกอย่างตั้งแต่การสนับสนุนลูกค้าไปจนถึงเครื่องมือการวิจัย และการถอนเงิน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกโบรกเกอสำหรับนักเทรดในประเทศไทย
จากการทดสอบ ผมได้จำกัดตัวเลือกให้เหลือเพียง 8 สุดยอดโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ในประเทศสำหรับปี 2567 ดังรายละเอียดด้านล่างนี้
สุดยอด 8 โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยสำหรับปี 2567
Pepperstone - โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดโดยภาพรวม
Eightcap - โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดแบบอัตโนมัติ
IC Markets - โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีสเปรดต่ำที่สุด
eToro - แพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งาน Social and Copy Trading
XTB - บัญชีเทรดแบบไม่มีค่าคอมมิชชันที่ยอดเยี่ยมที่สุด
XM - โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่
Exness - โบรกเกอร์ MetaTrader 4 ที่นำเสนอเลเวอเรจสูง
TickMill - โบรกเกอร์ที่มีค่าคอมมิชชันต่ำที่สุด
Pepperstone -โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดโดยภาพรวม
Pepperstone เป็นตัวเลือกหลักที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดฟอเร็กซ์ในประเทศไทย เนื่องจากค่าสเปรดที่น้อย (ตั้งแต่ 0 pip) ความเร็วในการดำเนินการที่สูง และเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลาย
โบรกเกอร์รายนี้ก่อตั้งในปี 2010 และมีธุรกรรมที่มีมูลค่าเกือบ 12.55 พันล้านดอลลาร์ต่อวันจากลูกค้ากว่า 300,000 คน ทำให้พวกเขาเป็นโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดนั่นเอง
ข้อดีของ Pepperstone:
สเปรด 0 pips
ตลาดทางการเงินที่หลากหลาย
ความเร็วในการดำเนินการในแทบจะทันที
เครื่องมือวิเคราะห์ตลาดที่ยอดเยี่ยม
แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
บัญชีการซื้อขาย ECN ที่ยอดเยี่ยม
หนึ่งในสิ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุดของ Pepperstone นั่นคือ ความหลากหลายของบัญชีการซื้อขาย โดยพวกเขาเสนอบัญชีสองประเภท (Standard และ Razor) เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
ทั้งบัญชี Standard และ Razor ไม่มีเงินฝากขั้นต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกประเภท บัญชี Standard เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ เนื่องจากมีสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชัน
ส่วนบัญชี Razor มีสเปรดและค่าคอมมิชชันที่ต่ำกว่า ทำให้เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์สูง หรือมีปริมาณการซื้อขายสูง โดยทั้งสองบัญชีใช้ราคาแบบ ECN (electronic communication network) เพื่อความเร็วในการดำเนินการภายในเวลา 100 มิลลิวินาที
ความเร็วในการดำเนินการ | ||
โบรกเกอร์ | ความเร็วของ Limit Order (ms) | ความเร็วของ Market Order (ms) |
Pepperstone | 77 | 100 |
TMGM | 94 | 129 |
FXCM | 108 | 123 |
City Index | 95 | 131 |
Axi | 90 | 164 |
Eightcap | 143 | 139 |
FP Markets | 225 | 96 |
IC Markets | 134 | 153 |
Markets.com | 150 | 141 |
GO Markets | 144 | 145 |
ผมคิดว่าบัญชี Razor เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ทำการซื้อขายในปริมาณสูงและผู้ทำการเทรดแบบ Scalper ซึ่งได้ประโยชน์จากราคา สเปรดเริ่มต้นของคู่เงินหลักๆ ของตลาดฟอเร็กซ์เริ่มต้นที่ 0.0 pips และมีค่าคอมมิชชันเพียง $3.50 ต่อล็อตเท่านั้น จึงถือเป็นหนึ่งในบัญชีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดที่ผมเคยพบมา
สเปรดเป็นศูนย์ 100% ในตลอดเวลา
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของ Pepperstone คือ การให้บริการด้วยสเปรดเป็นศูนย์ในบัญชี Razor ในตลอดเวลาแบบ 100%
จากการที่ผมได้ทดสอบด้วยตนเอง โดยการตรวจสอบสเปรดบนแพลตฟอร์ม MT4 ด้วย EA ที่ปรับแต่งเพื่อตรวจสอบสเปรด ทำให้ผมยืนยันได้ว่า สเปรดบนคู่สกุลเงินหลักเช่น EUR/USD และ GBP/USD คงที่ที่ระดับ 0.0 pips ตลอดเวลา (ยกเว้นในช่วง rollover)
ช่วงเวลาที่ค่าสเปรดเป็นศูนย์ (นอกช่วง rollover) | ||||||
โบรกเกอร์ | AUDUSD | EURUSD | GBPUSD | USDCAD | USDCHF | USDJPY |
Pepperstone | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 100.00% |
FP Markets | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 86.96% | 100.00% |
Fusion Markets | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 100.00% |
ThinkMarkets | 95.65% | 100.00% | 91.30% | 91.30% | 91.30% | 100.00% |
EightCap | 100.00% | 100.00% | 10000% | 100.00% | 86.96% | 100.00% |
Admiral Markets | 100.00% | 99.57% | 79.13% | 95.22% | 100.00% | 100.00% |
IC Markets | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 100.00% | 86.96% | 100.00% |
Axi | 100.00% | 100.00% | 65.22% | 91.30% | 60.87% | 78.26% |
CMC Markets | 100.00% | 95.65% | 65.22% | 86.96% | 65.22% | 78.26% |
การที่สเปรดเท่ากับศูนย์ตลอดเวลาเป็นเรื่องที่เกือบไม่เคยได้ยินถึงในอุตสาหกรรมนี้ ส่วนใหญ่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อาจโฆษณาว่า "เริ่มต้นที่ 0.0 pips" แต่ก็มักจะเป็นเพียงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น
การให้สเปรดเป็นศูนย์สำหรับคู่เงินหลักๆ ช่วยให้คุณประหยัดได้มาก โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นนักเทรดที่มีการเทรดปริมาณมาก ดังนั้นในความคิดของผม บัญชี Razor ของ Pepperstone นั้นเหนือกว่าบัญชีทั่วไป
แพลตฟอร์มและเครื่องมือการซื้อขายที่ทรงพลัง
อีกหนึ่งสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับโบรกเกอร์นี้คือ แพลตฟอร์มการซื้อขายฟอเร็กซ์ที่มีให้เลือกมากมาย ที่ล้วนได้รับการทดสอบมาเป็นอย่างดี รวมถึง MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader, และ TradingView ทั้งหมดนี้สามารถใช้งานได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์และมือถือ
ส่วนตัวแล้วผมชอบใช้ MT4 และ MT5 เนื่องจากมีชุดเครื่องมือ Smart Trading Tools ฟรี เช่น ตัวชี้วัดอารมณ์ (sentiment indicators), ตารางเชื่อมโยง (correlation matrix), และเครื่องมือการวาดกราฟขั้นสูง และยังมี correlation trader ที่เป็นประโยชน์ในการระบุการซื้อขายที่เป็นไปได้ในหลากหลายคู่เงิน
ความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับ Pepperstone
ผมประทับใจในเงื่อนไขการซื้อขายที่ Pepperstone นำเสนอ ในระหว่างการทดสอบของผม ผมพบว่าการมีค่าสเปรดเป็นศูนย์บนบัญชี Razor นั้นเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจสำหรับนักเทรดทั้งหลาย
นอกจากนี้ ในการทดสอบความเร็วในการดำเนินการยังแสดงให้เห็นว่า Pepperstone รู้ดีว่าความเร็วในการดำเนินการซื้อขายนั้นสำคัญอย่างไร นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมวาง Pepperstone ไว้เป็นโบรกเกอร์อันดับหนึ่ง
Eightcap - โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดแบบอัตโนมัติ
Eightcap ถูกจัดอันดับไว้ในรายการนี้เพราะว่าพวกเขามีเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับกลยุทธ์แบบอัตโนมัติที่จะช่วยให้คุณเทรดได้โดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ด นอกจากนี้ Eightcap ยังมีบัญชีการซื้อขายที่มีค่าสเปรดต่ำและตลาดการซื้อขายที่หลากหลาย รวมถึงการซื้อขายเหรียญดิจิทัลที่มากถึง 95 รายการ
ข้อดีของ Eightcap:
เครื่องมืออัตโนมัติที่ทรงพลังและไม่ต้องใช้โค้ด
ต้นทุนในการซื้อขายต่ำ
ตลาดเหรียญดิจิทัลที่หลากหลายที่สุด
เครื่องมือการซื้อขายที่ดีและพอร์ทัลการศึกษาที่เป็นประโยชน์
เครื่องมือการเทรดอัตโนมัติที่ดีที่สุด
ผมไม่เคยสนใจในกลยุทธ์แบบอัตโนมัติเลยจริงๆ เนื่องจากมันจะต้องใช้ความรู้ในการเขียนโค้ดที่น่าปวดหัว หากคุณรู้สึกสบายใจกับการเขียนโค้ด คุณก็สามารถใช้ MetaTrader 4 และ Expert Advisors (EAs) ได้
แต่สำหรับผมแล้ว Capitalise.ai เหมาะกับผมมากกว่า โดย Capitalise.ai ช่วยให้คุณสามารถสร้างกลยุทธ์การซื้อขายโดยอัตโนมัติได้โดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ด เป็นการเปิดโอกาสใหม่ให้กับนักเทรดเช่นผม
ตัวอย่างเช่น ผมลองพิมพ์กลยุทธ์พื้นฐานว่า "ซื้อ EUR/USD 1 ล็อต เมื่อเส้นเครื่องหมายอยู่ในระยะ 50 เคลื่อนที่ขึ้นเหนือเส้นเครื่องหมายในระยะ 200 บนกราฟราย 1 ชั่วโมง ตั้ง stop loss ที่ 50 pip และ take profit ที่ 100 pip" จากนั้น AI จะสร้างอัลกอริธึมขึ้นมา และคุณสามารถดำเนินการเทรดในบัญชีการซื้อขายของ Eightcap ของคุณได้เลย
กลยุทธ์การซื้อขายแบบอัตโนมัติเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมันช่วยให้คุณสามารถใช้กลยุทธ์เดียวกันในสินทรัพย์หลายๆ รายการ และทำงานตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้ยังช่วยลดความผิดพลาดในการตัดสินใจที่อาจเกิดจากอารมณ์และความกดดัน
Eightcap ยังรองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 ซึ่งเหมาะสำหรับการซื้อขายอัตโนมัติแบบดั้งเดิมอีกด้วย หากคุณสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษา MQL4 คุณก็สามารถสร้าง Expert Advisors (EAs) เพื่อทำให้กลยุทธ์การซื้อขายของคุณทำงานแบบอัตโนมัติบนบัญชีการซื้อขายของ Eightcap ของคุณได้
สเปรดที่น่าสนใจบนบัญชีทุกประเภท
คุณสมบัติอีกอย่างที่ผมชื่นชอบใน Eightcap คือสเปรดที่ต่ำในบัญชีทุกประเภท จากการทดสอบของผม บัญชี Raw โดดเด่นด้วยสเปรดเฉลี่ยที่ 0.06 pips ในคู่ EUR/USD และค่าคอมมิชชันต่ำเพียง 3.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อล็อตที่ซื้อขาย จึงนับเป็นหนึ่งในบัญชีที่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำที่สุดที่ผมเคยลอง
ในขณะเดียวกัน บัญชี Standard อาจมีค่าสเปรดที่สูงกว่าเล็กน้อย (เริ่มต้นที่ 1.0 pips) และไม่มีค่าคอมมิชชันใดๆ ซึ่งบัญชีนี้อาจจะเหมาะสำหรับนักเทรดที่ไม่ได้ซื้อขายบ่อยหรือผู้ที่พึ่งเริ่มต้นที่ชอบโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ต่ำและคงที่
ตลาดฟอเร็กซ์และคริปโตยอดนิยม
ผมพบว่า Eightcap ครอบคลุมตลาดที่เป็นที่นิยมที่สุดสำหรับการซื้อขาย รวมถึง ฟอเร็กซ์ 56 คู่, ดัชนี 16 ตัว, สินค้า 8 รายการ, หุ้น CFD 586 รายการ, และคริปโต 95 ตลาด นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดจากการทดสอบของผม
การเสนอขายคริปโตนั้นมีความน่าทึ่ง ด้วยเหรียญเช่น Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Ripple, และเหรียญอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะทำให้คุณมีตัวเลือกที่หลากหลายในการซื้อขายในตลาดเหล่านี้
ผมคิดว่า Eightcap ให้โอกาสที่ดีมากสำหรับการซื้อขายคริปโตและคู่สกุลเงินเนื่องจากไม่ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลายๆ บัญชีบนแพลตฟอร์มต่างๆ และ Eightcap ส่งมอบความหลากหลายเหล่านี้เพื่อกระจายพอร์ตโฟลิโอของคุณ
ความคิดเห็นของผมต่อ Eightcap
ผมคิดว่า Eightcap ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการปิดช่องว่างระหว่างเทรดเดอร์มืออาชีพและนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติ ผ่าน Capitalise.AI
อย่างไรก็ตาม ผมยังมองว่าความหลากหลายของตลาดทางการเงินนั้นทำให้ Eightcap กลายเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในแง่ด้านการเสนอขายเหรียญดิจิทัล และด้วยปัจจัยเหล่านี้พร้อมกับต้นทุนการซื้อขายที่ต่ำ ทำให้ Eightcap มีฐานะเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดนั่นเอง
IC Markets - โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีสเปรดต่ำที่สุด
IC Markets เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดในรายการของผม พวกเขามีสมาชิกกว่า 200,000 คนที่กำลังดำเนินการซื้อขายและปริมาณการซื้อขายเกิน 15 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน
นอกจากนี้ ผมเพิ่ม IC Markets ลงไปในรายการเนื่องสเปรดที่ต่ำที่สุดที่พวกเขามีให้ และโบรกเกอร์ CFD รายนี้ยังให้บริการด้วยแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่ครบถ้วนที่สุด เช่น MT4, MT5, cTrader, และ TradingView
ข้อดีของ IC Markets:
สเปรดที่ต่ำที่สุดที่ได้รับการทดสอบ
แพลตฟอร์มการซื้อขายหลากหลายที่สุด
เครื่องมือการซื้อขายขั้นสูงและเครื่องมือการวิเคราะห์ตลาด
ตลาดการซื้อขายมากกว่า 2,200 ตลาด
พบกับสเปรดที่น่าสนใจที่สุดในประเทศไทย
เหตุผลหลักที่ผมแนะนำ IC Markets คือสเปรดที่ต่ำมากของพวกเขา โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มักจะโฆษณาว่าพวกเขาเสนอสเปรดที่ต่ำ แต่จากการทดสอบมากกว่า 40 รายการเพื่อหาค่ากระจายที่เฉลี่ยที่แท้จริงผมกลับพบว่า IC Markets ทำผลงานออกมาได้ดีอย่างน่าทึ่ง
ในบัญชี Standard พวกเขามีค่าเฉลี่ยสเปรดที่ต่ำที่สุดที่ 0.73 pips สำหรับคู่ EUR/USD ซึ่งคุณสามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้ สเปรดนี้ถือเป็นราคาที่ถูกลงไปเกือบ 30%+ ซึ่งมากกว่าโบรกเกอร์อื่นๆ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้นเมื่อไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันร่วมด้วย
ผลการทดสอบสเปรดโดยเฉลี่ยสำหรับบัญชีแบบ Standard | |||||||
โบรกเกอร์ | สเปรด AUDUSD | สเปรด EURUSD | สเปรด GBPUSD | สเปรด USDCAD | สเปรด USDCHF | สเปรด USDJPY | ค่าเฉลี่ยสเปรดโดยรวม |
IC Markets | 0.82 | 0.73 | 1.15 | 1.00 | 1.40 | 1.09 | 1.03 |
CMC Markets | 0.77 | 0.80 | 1.08 | 1.50 | 1.00 | 1.17 | 1.11 |
OANDA | 1.00 | 1.06 | 1.86 | 1.75 | 2.00 | 1.55 | 1.54 |
Fusion Markets | 1.02 | 1.01 | 1.23 | 1.17 | 1.44 | 1.27 | 1.19 |
TMGM | 1.03 | 1.00 | 1.21 | 1.31 | 1.43 | 1.26 | 1.21 |
City Index | 1.07 | 1.16 | 1.77 | 2.30 | 2.68 | 1.74 | 1.79 |
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม | 1.28 | 1.11 | 1.50 | 1.67 | 1.86 | 1.49 |
|
ในการทดสอบของผม สำหรับบัญชีแบบ Raw โบรกเกอร์ได้ก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งชั้นนำหลังจากที่มีสเปรดเฉลี่ยที่ 0.19 pips ในคู่การซื้อขาย EUR/USD ซึ่งค่าสเปรดนี้ยืนยันให้เห็นว่า IC Markets มีสเปรดที่ต่ำที่สุดในประเทศไทย ด้วยรูปแบบราคาแบบ ECN ของจริง
ผลการทดสอบสเปรดโดยเฉลี่ยสำหรับบัญชีแบบ RAW Accounts | |||||||
โบรกเกอร์ | สเปรด AUDUSD | สเปรด EURUSD | สเปรด GBPUSD | สเปรด USDCAD | สเปรด USDCHF | สเปรด USDJPY | ค่าเฉลี่ยสเปรดโดยรวม |
IC Markets | 0.23 | 0.19 | 0.27 | 0.45 | 0.57 | 0.24 | 0.32 |
Fusion Markets | 0.09 | 0.16 | 0.21 | 0.23 | 0.41 | 0.22 | 0.22 |
TMGM | 0.15 | 0.15 | 0.35 | 0.43 | 0.51 | 0.33 | 0.32 |
Pepperstone | 0.19 | 0.19 | 0.41 | 0.61 | 0.39 | 0.36 | 0.36 |
CityIndex | 0.23 | 0.22 | 0.17 | 0.16 | 0.44 | 0.27 | 0.25 |
FP Markets | 0.31 | 0.20 | 0.31 | 0.51 | 0.71 | 0.39 | 0.41 |
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม | 0.42 | 0.27 | 0.54 | 0.62 | 0.71 | 0.48 | 0.49 |
ในบัญชีแบบ Raw คุณจะต้องชำระค่าคอมมิชชันด้วย ซึ่งมีมูลค่า $3.50 ต่อล็อตการซื้อขาย ถือเป็นค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ผมพบว่าบัญชี cTrader Raw มีค่าคอมมิชชันเพียง $3.00 ต่อล็อตการซื้อขาย จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าในการซื้อขาย
ถึงแม้ว่าจะมีค่าคอมมิชชัน แต่ผมมองว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อขายโดยรวมยังต่ำกว่าบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชันในโบรกเกอร์อื่นๆ
การซื้อขายบนแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมืออันทรงพลัง
แพลตฟอร์มการซื้อขายของ IC Markets แทบจะอยู่ในอันดับต้นๆ เช่นเดียวกับ Pepperstone พวกเขาให้บริกทั้ง MetaTrader 4, MT5, cTrader, และ TradingView หรือแพลตฟอร์ม social trading เช่น ZuluTrade หากคุณชอบที่จะทำการซื้อขายโดยการคัดลอกการเทรด
ในการทดสอบของผม ผมใช้ cTrader ซึ่งเป็นการผสมผสานของ MT4 เพื่อการปรับแต่งและการใช้งานอัตโนมัติที่มาพร้อมกับการวาดแผนภูมิขั้นสูงและตัวชี้วัดที่คล้ายกับ TradingView ซึ่งทำให้การวิเคราะห์เทคนิคง่ายขึ้น
และหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ cTrader คือ Depth of Market, DOM ซึ่งช่วยให้คุณเห็นความลึกของตลาดทั้งหมด ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับเวลาในการทำธุรกรรมให้ดีขึ้นและหลีกเลี่ยงการต่อต้าน ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของคุณได้
อย่างไรก็ตาม MT4 และ MT5 ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมซึ่งที่มีตัวชี้วัดที่ปรับแต่งได้ และยังมี Expert Advisors (EAs) และเครื่องมืออื่นๆ ทำให้ TradingView โดดเด่นกว่าเครื่องมือจากแพลตฟอร์มส่วนใหญ่
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ IC Markets
เงื่อนไขการซื้อขายของ IC Markets นั้นดีที่สุดที่ผมเคยได้ทดลองเทรดมา การสร้างบัญชีที่ง่ายและซื้อขายได้ด้วยสเปรดที่ต่ำ (0.73 pips) ในบัญชี Standard เป็นจุดเด่นในการรีวิวของผม
ค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่เหมือนกันในบัญชี Raw นั้นหมายความว่าคุณจะได้ประโยชน์จากทั้งสองบัญชีนี้ได้อย่างแน่นอน และนี่เองที่ทำให้ IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ยากที่จะเอาชนะเมื่อพูดถึงเรื่องราคา
eToro - แพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งาน Social and Copy Trading
eToro ถูกเลือกให้เข้ามาอยู่ในลิสเพราะว่าพวกเขาเป็นเว็บที่ดีที่สุดสำหรับ copy trading ทำโบรกเกอร์รายนี้กลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และผู้ที่มีเวลาจำกัด
บริษัท Fintech นี้เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีสำหรับการซื้อขายประเภทนี้ตั้งแต่ปี 2007 และมีนักเทรดเข้าร่วมมากกว่า 30,000,000 คนทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำทางการตลาดอย่างชัดเจน และโบรกเกอร์นี้ยังให้บริการในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ตั้งแต่หุ้นไปจนถึงคริปโต โดยไม่มีค่าคอมมิชชันแต่อย่างใด
ข้อดีของ eToro:
คุณสมบัติ copy trading ที่ยอดเยี่ยม
ชุมชนการเทรดขนาดใหญ่
การซื้อขายหุ้นและ ETF โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน
เว็บและแพลตฟอร์มมือถือที่ใช้งานง่าย
แพลตฟอร์มสำหรับ Copy Trading ที่ดีที่สุด
eToro's CopyTrader ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการฟอเร็กซ์ ที่เปิดโอกาสให้นักเทรดมือใหม่เข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์ (และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ความเสี่ยงสูงอื่นๆ) ได้ง่ายขึ้น
ผมชื่นชมในความที่ใช้งานง่ายและโปร่งใสของแพลตฟอร์ม CopyTrader เป็นอย่างมาก โดยตัวกรองจะช่วยให้คุณสามารถเรียกดูประวัติการเทรดทั้งหมดของเทรดเดอร์กว่า 2,000,000 คน พร้อมดูสถิติสำคัญ เช่น คะแนนความเสี่ยงของนักเทรด ระยะเวลาการเทรดเฉลี่ย และการสูญเสียสูงสุด
และ eToro ยังมีกระบวนการยืนยันตัวตนและประวัติการเทรดของนักเทรดมืออาชีพ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะคัดลอกการเทรดจากนักเทรดที่แท้จริงเท่านั้น ซึ่งในช่วงทดสอบ ผมพบว่าการคัดลอกการเทรดจากนักเทรดเป็นเรื่องง่ายมาก
และ eToro จะทำการทำกระจายการเทรดของพวกเขาแบบเรียลไทม์ให้กับคุณ ทำให้คุณสามารถคัดลอกการเทรดจากนักเทรดหลายๆ คนได้อย่างพร้อมกันในตลาดต่าง ๆ เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น และสินค้า เพื่อช่วยคุณในการทำกำไรในตลาด
หากคุณต้องการที่จะใช้งานแบบมืออาชีพมากขึ้น ผมขอแนะนำชุมชนการเทรดของ eToro ที่ให้บริการอย่างดีและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนนักเทรดรายย่อยจำนวน 30,000,000 คน ที่คุณจะสามารถติดตาม เรียกดูพอร์ตการลงทุนของพวกเขา และเข้าร่วมการสนทนาในฟีดได้
CopyPortfolios ด้วย AI เพื่อการลงทุนที่หลากหลาย
eToro ได้พัฒนา copy trading ไปอีกขั้นตอนหนึ่งด้วย CopyPortfolios ที่สร้างขึ้นโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในกลุ่มกองทุนการลงทุนและพร้อมใช้งานในสินทรัพย์หลายชนิด และเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการกลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจง
ในรีวิวของผม ผมพบว่าพอร์ตการลงทุนเหล่านี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เวลามาก อัลกอริธึม AI จะทำการปรับสมดุลพอร์ตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการบริหารจัดการการลงทุนของตนเอง
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุดคือความหลากหลายของพอร์ตการลงทุนกว่า 19 พอร์ต คุณสามารถเลือกที่จะติดตามการเทรดเหมืองแร่ เช่น Warren Buffet หรือติดตาม CryptoPortfolio หรือสร้างกำไรจากพอร์ตการลงทุน AI-Revolution โดยการลงทุนในบริษัทที่มีเทคโนโลยี AI ก็ได้เช่นกัน โดยคุณสามารถตั้งค่าพอร์ตการลงทุนได้ด้วยยอดเงินตั้งแต่ $500
ผมเชื่อว่าคุณสมบัตินี้เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการที่จะกระจายการลงทุนของพวกเขาโดยไม่ต้องมานั่งวิเคราะห์สินทรัพย์ และนอกจากนี้คุณยังสามารถตรวจสอบประวัติการเทรดและสถิติการซื้อขายที่ยอดเยี่ยมจาก eToro เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นอีกด้วย
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ eToro
ผมคิดว่า eToro’s CopyTrader เป็นแพลตฟอร์ม copy trading ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้ และ eToro ยังได้นำเสนอแพลตฟอร์มที่โปร่งใสที่สุดสำหรับการคัดลอกการเทรดจากนักเทรดคนอื่น ๆ
โดยส่วนตัว ผมชอบดูประวัติการเทรดทั้งหมดและกำไร (และขาดทุน) ที่นักเทรดแต่ละท่านทำได้ มันทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นเมื่อเลือกนักเทรดที่ผมต้องการคัดลอกการเทรด
และด้วยการซื้อขายในตลาดกว่า 3,000+ ที่ไม่มีการเรียกค่าคอมมิชันใด ๆ ของโบรกเกอร์ eToro ยิ่งทำให้ประสบการณ์การซื้อขายนั้นดียิ่งขึ้น
XTB - บัญชีเทรดแบบไม่มีค่าคอมมิชชันที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ผมเพิ่ม XTB ในลิสต์นี้เนื่องจากบัญชีการซื้อขายที่ไม่มีค่าคอมมิชัน ทำให้พวกเขาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจถ้าคุณชอบค่าธรรมเนียมการซื้อขายทและสเปรดที่ต่ำ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ XTB เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์เพียงไม่กี่รายที่เข้าไปอยู่ในรายการบนตลาดหุ้น (ในโปแลนด์) ดังนั้นคุณสามารถมั่นใจได้ว่าโบรกเกอร์นี้มีความโปร่งใสและปลอดภัย
ข้อดีของ XTB:
บัญชีการซื้อขายไม่มีค่าคอมมิชชัน
สเปรดที่ต่ำและมีความหลากหลาย
ไม่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ
การวาดแผนภูมิขั้นสูงด้วยแพลตฟอร์ม xStation 5
เทรดโดยปราศจากค่าธรรมเนียมและไม่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ
จากการทดสอบ ผมพบว่าบัญชี standard ของ XTB โดดเด่นด้วยการเสนอสเปรดที่ต่ำและการซื้อขายได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชันในตลาดการเงินส่วนใหญ่ รวมถึงฟอเร็กซ์ ดัชนี สินค้า และ CFD หุ้น ซึ่งผมคิดว่าสิ่งนี้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากโดยเฉพาะในกรณีที่คุณมีการเทรดในปริมาณสูง
แทนที่จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน โบรกเกอร์ทำกำไรผ่านสเปรด ซึ่งก็คือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายที่คุณต้องจ่ายเมื่อเข้าทำการซื้อขาย ที่น่าทึ่งคือที่นี่เสนอสเปรดที่ค่อนข้างต่ำในจำนวนเพียง 0.90 pips สำหรับคู่ EUR/USD ซึ่งต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมทั้งหมด
ผมยังชื่นชอบในส่วนที่ XTB ไม่มีข้อกำหนดในการฝากเงินขั้นต่ำ มันเป็นนโยบายที่ผมอยากเห็นบนโบรกเกอร์ทุกแห่ง เพราะมันช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ด้วยยอดเงินที่คุณจ่ายไหว
แพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพสูง
เป็นที่น่าสนใจที่ XTB นำเสนอตัวเลือกแพลตฟอร์มในจำนวนที่น้อยกว่าคู่แข่งบางราย ซึ่งอาจทำให้บางคนไม่ค่อยชอบ แต่ในการทดสอบของผม ผมพบว่าแพลตฟอร์ม xStation 5 ของพวกเขามีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก
แพลตฟอร์มมีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานได้ง่าย มีเลย์เอาท์ที่สามารถปรับแต่งได้เองซึ่งช่วยให้นักเทรดปรับแต่งสภาพแวดล้อมการซื้อขายตามความชอบได้ ผมชอบคุณลักษณะต่างๆ เช่น sentiment feature ซึ่งแสดงเปอร์เซ็นต์ของลูกค้า XTB ที่เป็นตัวอย่างการลงทุนในระยะยาวหรือสั้นในเครื่องมือที่เฉพาะเจาะจง
คุณลักษณะอื่นๆ ที่โดดเด่นคือ heat map ซึ่งแสดงภาพรวมของการเคลื่อนไหวของตลาดในกลุ่มสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ผมพบว่าคุณลักษณะนี้มีประโยชน์มากสำหรับการระบุโอกาสทางการซื้อขาย
นอกจากนี้ XTB ยังให้บริการแอพเทรด Forex ของแพลตฟอร์ม xStation ซึ่ผมมองว่ามันเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันการซื้อขายที่ดีที่สุดที่ผมเคยทดสอบ โดยมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเวอร์ชันเดสก์ทอปมาก มันจึงช่วยให้ซื้อขายมีประสิทธิภาพในทุกที่
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ XTB
ในการทดสอบของผม ผมพบว่า XTB นำเสนอเงื่อนไขการซื้อขายที่เหมาะสมด้วยบัญชีการซื้อขายที่ไม่มีค่าคอมมิชชันและสเปรดที่ต่ำ ซึ่งถือว่าดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก นอกจากนี้แพลตฟอร์ม xStation 5 ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ตลาด
แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังอยากให้พวกเขานำเสนอตัวเลือกเช่น TradingView หรือ MT5 มากกว่า
XM - โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่
XM เป็นอีกโบรกเกอร์ขนาดใหญ่ที่ผมนำมาจัดอันดับ พวกเขาได้รับการควบคุมจากองค์กรชั้นนำเช่น CySEC, ASIC, และ FCA ทำให้การซื้อขายที่นี่มีความปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
ผมเลือก XM เพราะ Micro account ที่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำและขนาดล็อตที่ต่ำ ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดที่พึ่งเริ่มต้น โดยที่ยังค่าสเปรดที่ต่ำหรือเสนอการเทรดตลาดที่หลากหลาย
ข้อดีของ XM:
- Micro account ซึ่งเป็นบัญชีที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น
- สเปรดต่ำ
- ไม่มีการปฏิเสธราคาหรือการขอให้เทรดใหม่
- ตลาด CFD ที่หลากหลาย
บัญชี Micro ที่ XM เป็นแบบออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น
ด้วยบัญชีแบบ Micro ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งเมื่อต้องเปรียบเทียบโบรกเกอร์ ซึ่งคุณสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยการฝากขั้นต่ำเพียง $5 เท่านั้น ทำให้คุณเริ่มเทรดโดยมีความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำมาก
ข้อดีหลักๆ ของบัญชี Micro คือการลดขนาดล็อตลงเหลือ 1,000 หน่วย ซึ่งช่วยให้การจัดการความเสี่ยงเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น นอกจากการฝากขั้นต่ำที่ต่ำ บัญชี Micro ยังคงค่าสเปรดที่แข่งขันได้ ซึ่งผมพบว่าสเปรดเริ่มต้นที่หนึ่งพิปสำหรับ EUR/USD และไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน ซึ่งทำให้คุณมีกำไรมากขึ้น
สิ่งผมชื่นชอบอีกประการหนึ่งคือ คุณสามารถเข้าถึงตลาดกว่า 1,000 รายการ จาก บัญชี Micro ของ XM ในขณะที่บางโบรกที่มีบัญชีเซ็นต์/ไมโครอาจจำกัดตัวเลือกการเทรดไปที่ทองคำและคู่เงินหลักเท่านั้น
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงทางการเงินในทันที XM ยังมีบัญชีเดโม่ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อการทดลองใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ ของ XM เช่น MT4 และ MT5
ไม่มีการเรียกให้เทรดใหม่และไม่มีการปฏิเสธราคา
อีกข้อได้เปรียบสำหรับผู้เริ่มต้นที่ใช้งาน XM คือนโยบายที่ไม่มีการเรียกให้เทรดใหม่และไม่มีการปฏิเสธราคา (no requotes and no price rejections policy) ซึ่งหมายความว่าราคาที่คุณคลิกเพื่อทำการเทรดคือราคาที่คุณจะได้รับ แม้ในเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง
โบรกเกอร์อื่นๆ มักจะมีการเรียกให้เทรดใหม่หรือปฏิเสธคำสั่งในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง ผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หลายครั้งและมันทำให้ผมสูญเสียเงิน ดังนั้นผมจึงใส่ใจเป็นพิเศษในการเลือกโบรกเกอร์ที่มีนโยบายเหล่านี้
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ XM
ผมคิดว่าบัญชี Micro ของ XM เป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมจากโบรกเกอร์ จากบัญชีทดลองไปสู่บัญชีจริงโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินมากนัก การปรับแต่งบัญชีให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเทรดมือใหม่ทำให้การเทรดง่ายขึ้น
บัญชี Micro เหมาะสำหรับการพัฒนาทักษะในการเทรดและเพิ่มความมั่นใจในการซื้อขาย นอกจากนี้ นโยบายในการไม่มีการเรียกให้เทรดใหม่หรือปฏิเสธราคายังช่วยปกป้องนักเทรดจาก slippage ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินในระยะยาวได้
Exness - โบรกเกอร์ MetaTrader 4 ที่นำเสนอเลเวอเรจสูง
Exness เป็นโบรกเกอร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่นอกเกาะ ที่ได้รับเสียงชื่นชมในการให้บริการการเทรดที่เสถียรสำหรับนักเทรดชาวไทย ผมเพิ่ม Exness เข้าไปในการจัดอันดับเนื่องจากพวกเขามีเลเวอเรจสูงที่สุดที่ผมทดสอบมา และยังมีเงื่อนไขการเทรดชั้นยอดบนแพลตฟอร์ม MT4 และยังมีสเปรดที่แข่งขันได้อีกด้วย
ข้อดีของ Exness:
เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000
บริการ VPS ฟรี
Trading Central สำหรับ MT4
มีการป้องกันความเสี่ยงจากยอดเงินติดลบ
Exness รองรับ MetaTrader 4 ด้วยบริการระดับท็อป
ส่วนใหญ่โบรกเกอร์ล้วนรองรับ MetaTrader 4 อย่างไรก็ตาม ผมพบว่า Exness นั้นที่ดีที่สุด โดยการทดสอบด้วย MT4 ชี้ให้เห็นว่าคุณจะสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือการซื้อขายมากกว่า 30 แบบ ตัวอย่างเช่น ตัวบ่งชี้การซื้อขายและเครื่องมือวาดภาพ เช่น Ichimoku และ Fibonacci retracement tools
นอกจากนี้ Exness ยังปรับปรุงแพลตฟอร์ม MT4 โดยการผสมเอา Trading Central เข้าไป โดยพวกเขาเป็นผู้ให้บริการสัญญาณการซื้อขายที่ดีที่สุด ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ breakout และ price action
นอกจากนี้ Exness ยังทำให้คุณสามารถเทรดได้โดยอัตโนมัติบนแพลตฟอร์มตลอด 24 ชั่วโมงผ่านบริการ VPS ฟรี ที่มีข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการเข้าถึงคืออย่างน้อย 7.5 ล็อตต่อเดือน ซึ่งผมคิดว่าเป็นเกณฑ์ที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่น
เลเวอเรจสูงสุด to 1:2000
Exness มีเลเวอเรจสูงสุดในทดสอบของผม โดยสูงถึง 1:2000 ในคู่สกุลเงินหลัก
เหตุผลที่ Exness สามารถให้เลเวอเรจที่สูงขนาดนี้ได้เนื่องจากได้รับการควบคุมจาก Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์ และ British Virgin Islands Financial Services Commission ซึ่งอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจได้มากกว่า
การมีเลเวอเรจนี้ ผมมองว่ามันน่าสนใจในหมู่นักเทรดที่มีประสบการณ์ที่สามารถขยายการเทรดของพวกเขาได้มากกว่าจากที่โบรกเกอร์อื่นให้เลเวอเรจเพียง 1:500 เช่นกัน ตัวอย่างเช่น นักเทรดอัลโก้ที่มีกลยุทธ์ที่ได้รับการยืนยันและมีการจัดการความเสี่ยงสามารถใช้เลเวอเรจที่สูงเพื่อเพิ่มขนาดในการเปิดตำแหน่งโดยไม่เสี่ยงลงทุนมากขึ้น
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ Exness
Exness เป็นโบรกเกอร์ที่ผมชื่นชอบในฐานะโบรกเกอร์ MetaTrader 4 ที่มีสเปรดที่แข่งขันได้ มีเครื่องมือการซื้อขายที่ล้ำสมัย และบริการ VPS มันจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดอัลกอริทึม และผมยังชื่นชมการเสนอเลเวอเรจที่สูงสุดถึง 1:2000 ที่ช่วยให้คุณสามารถขยายการเทรดเพิ่มขึ้นได้โดยง่าย
TickMill - โบรกเกอร์ที่มีค่าคอมมิชชันต่ำที่สุด
TickMill เป็นโบรกเกอร์หน้าใหม่ที่ก่อตั้งในปี 2011 โดยมีบัญชีที่ลงทะเบียนด้วยมากกว่า 750,000 บัญชีและมีการเทรดมากกว่า 625,000,000 ครั้งตั้งแต่เปิดตัวมา
และผมเลือก TickMill เข้ามาอยู่ในการจัดอันดับก็เพราะชุดเครื่องมือการซื้อขายที่โดดเด่นที่ส่งเสริมแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ 5 ที่มาพร้อมกับข้อค่าคอมมิชชันที่ต่ำ
ข้อดีของ TickMill:
ความหลากหลายของเครื่องมือการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5
สเปรดที่พอดีตั้งแต่ 0.15 pips บนบัญชีแบบ Raw
ความหลากหลายของตลาดเงินตรา
ค่าคอมมิชชันการเทรดที่ต่ำ
เครื่องมือการซื้อขายหลายรายการสำหรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MetaTrader 5
ในการทดสอบการเทรดที่ TickMill ผมพบว่าโบรกเกอร์ลงทุนอย่างมากเพื่อให้ได้เครื่องมือการซื้อขายที่ดีที่สุด เพื่อเสริมแต่งแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MT5 ตั้งแต่ Expert Advisors และตัวบ่งชี้ขั้นสูงใน Advanced Trading Toolkit ไปจนถึงบริการเทรดอัตโนมัติเช่น Capitalise.ai
หนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ผมชอบใช้คือ Autochartist ซึ่งช่วยสแกนได้หลายช่วงเวลาและเครื่องมือเพื่อหารูปแบบแผนภูมิ ระดับ Fibonacci หรือการพังทลายจากระดับราคา เครื่องมือเหล่านี้ช่วยประหยัดเวลาและให้ภาพรวมเกี่ยวกับโอกาสการซื้อขายที่เป็นไปได้ในแต่ละวัน
สิ่งที่โดดเด่นสำหรับผมคือ TickMill มีเวอร์ชันปลั๊กอิน MT4/MT5 ที่ช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและวิเคราะห์การวิเคราะห์ทางเทคนิคภายในแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณได้อย่างง่ายดาย
เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น คุณสามารถใช้เครื่องมือ Acuity Trading เพื่อใช้ข้อมูลความรู้สึกของตลาดโดยตรงแบบเรียลไทม์จากแหล่งข่าว เช่น Dow Jones ซึ่งช่วยให้คุณสร้างไอเดียการซื้อขายที่เฉพาะเจาะจงได้ดียิ่งขึ้น
รับค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำที่สุด
ในการทดสอบของผม พบว่าค่าคอมมิชชันของ TickMill บนบัญชี Raw อยู่ในระดับต่ำสุดที่ $3.00 ต่อล็อตการซื้อขาย และค่านี้ถือเป็นหนึ่งในต่ำสุดที่ผมพบในการทดสอบ
มันช่วยให้คุณประหยัดเฉลี่ย $0.50 เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่น จึงทำให้ TickMill เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดที่ต้องการลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายนั่นเอง
ค่าคอมมิชชัน | |
โบรกเกอร์ | USD |
Tickmill | $3.00 |
Pepperstone | $3.50 |
Eightcap | $3.50 |
IC Markets | $3.50 |
เมื่อฉันทำการเปรียบเทียบบัญชี Raw ECN กับบัญชี Standard ของ TickMill ฉันพบว่าบัญชี Raw ECN มักจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโบรกเกอร์มักจะมีค่าใช้จ่ายที่เป็นไปในทางเดียวกันในบัญชีต่างๆ
บัญชี Raw ECN มักจะมีค่าคอมมิชชันต่ำและสเปรดที่แคบกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับบัญชี Standard ความตั้งงใจในการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อขายและเพิ่มกำไรของนักเทรดเป็นสิ่งที่ทำให้บัญชี Raw ECN มีความน่าสนใจมากขึ้น
เปรียบเทียบค่าสเปรดสำหรับบัญชีแบบ RAW และ Standard | |||
บัญชี | ค่าคอมมิชชัน (Buy + Sell) | สเปรดเฉลี่ย (pips) | Effective Spread |
Raw | $6.00 (0.60 pips) | 0.15 | 0.75 |
Standard | Commission-Free | 1.60 | 1.60 |
จากข้อมูลนี้ ผมคิดว่าบัญชี Raw ของ TickMill เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเทรดที่ซื้อขายในปริมาณสูง เนื่องจากค่าคอมมิชชันต่ำ ซึ่งจะมีผลต่อกำไรของคุณในทุกการเทรด
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ TickMill
ผมคิดว่าเครื่องมือการซื้อขายของ TickMill นั้นมีคุณภาพและเหมาะสมกับสไตล์การเทรดหลากหลาย ผมคิดว่า TickMill เหมาะสำหรับนักเทรดแบบ Day Trader ที่สุด เนื่องจากสัญญาณการซื้อขายและเครื่องมืออย่าง Autochartist ที่จะทำให้คุณได้รับไอเดียการเทรดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมค่าคอมมิชชันที่ต่ำซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเทรดของคุณได้ดี
ความคิดเห็นของผมที่มีต่อ TickMill
ผมคิดว่าบัญชี Raw ของ TickMill เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเทรดที่ซื้อขายในปริมาณสูง เนื่องจากค่าคอมมิชชันต่ำ ซึ่งจะมีผลต่อกำไรของคุณในทุกการเทรด
นอกจากนี้เครื่องมือการซื้อขายของ TickMill ก็ยังมีคุณภาพและเหมาะสมกับสไตล์การเทรดหลากหลาย ผมคิดว่า TickMill เหมาะสำหรับนักเทรดแบบ Day Trader ที่สุด เนื่องจากสัญญาณการซื้อขายและเครื่องมืออย่าง Autochartist ที่จะทำให้คุณได้รับไอเดียการเทรดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมค่าคอมมิชชันที่ต่ำซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเทรดของคุณได้ดี
คำถามที่พบบ่อย
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายใดที่ดีที่สุดในประเทศไทย
โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดในประเทศไทยคือ Pepperstone เนื่องจากโบรกเกอร์นี้ให้บริการด้วยสเปรดที่ต่ำที่สุดจากการทดสอบของผม รวมถึงไม่มีค่าใช้จ่ายในบัญชีแบบ Raw ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพ
นอกจากนี้พวกเขายังได้คะแนนสูงในเรื่องความเร็วในการดำเนินการ ด้วยเวลาที่น้อยกว่า 100 มิลลิวินาที พร้อมทั้งเสนอแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้คุณพร้อมทำการซื้อขายในตลาด
ฟอเร็กซ์ถูกกฏหมายในไทยหรือไม่
ใช่ การซื้อขาย Forex นั้นถูกกฎหมายในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน (Bank of Thailand) ไม่ได้ควบคุมดูแล โบรกเกอร์ Forex โดยตรง
แต่การที่คุณจะเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตโดยสถาบันระดับ 1 เช่น หน่วยงานกำกับดูแลการเงิน (FCA) และหน่วยงานความปลอดภัยและการลงทุนในออสเตรเลีย (ASIC) จะทำให้บัญชีของคุณมีความปลอดภัยและช่วยป้องกันการฉ้อโกง
โบรกเกอร์ Forex ใดที่เชื่อถือได้ที่สุด
โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือที่สุดที่ผมได้ตรวจสอบมาคือ Pepperstone เนื่องจากพวกเขามีการควบคุมโดยหน่วยงานระดับ 1 ถึง 4 ซึ่งเพิ่มความเชื่อมั่นในให้บริการการซื้อขายที่ยอดเยี่ยม
โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดที่ใช้สำหรับการซื้อขาย Forex คือโบรกเกอร์ใด
โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดที่ใช้สำหรับการซื้อขาย Forex คือ XTB เนื่องจากพวกเขามีทางเลือกตลาดที่หลากหลายที่สุด โดยสามารถซื้อขายคู่เงินได้ถึง 71 คู่
XTB มีบัญชีการซื้อขายที่ไม่มีค่าธรรมเนียม และมีแพลตฟอร์มการซื้อขาย xStation 5 ทำให้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับการซื้อขาย Forex เช่นเดียวกันกับ Pepperstone และ IC Markets
ความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex คืออะไร
ความเสี่ยงหลักในการซื้อขาย Forex คือการสูญเสียเงินทุนอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ เช่น การเคลื่อนไหวของตลาดในทางตรงกันข้ามกับคุณและความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มกำไรของคุณ
การซื้อขาย Forex มีค่าใช้จ่ายเท่าใด
โดยทั่วไป โบรกเกอร์ทุกแห่งมีการเรียกเก็บค่าสเปรด (ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและขาย) ทันทีที่ทำการซื้อขาย ซึ่งสามารถแบ่งตามตลาดได้ตั้งแต่ 0.50 pips ถึง 2 pips ขึ้นอยู่กับตลาดและประเภทบัญชี (ECN / Raw) และบางแห่งมีสเปรดต่ำ (ตั้งแต่ 0.0 pips) แต่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่อล็อต $2.00 ถึง $3.50
โบรกเกอร์ Forex ไหนที่เสนอแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดีที่สุด
Exness มีแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดีที่สุด โดย MetaTrader 4 เป็นตัวเลือกหลักของพวกเขา แพลตฟอร์ม MT4 เป็นตัวเลือกที่หลากหลายที่สุดในตลาด ทำให้คุณสามารถปรับแต่งแพ็กเกจได้ตามสไตล์การซื้อขายของคุณ
หากคุณเป็นนักเทรดแบบ scalping คุณสามารถเปิดการซื้อขายด้วยการคลิกครั้งเดียวและสามารถเพิ่มตัวชี้วัดที่กำหนดเองลงในแผนภูมิของคุณ
หรือหากคุณเป็นนักเทรดแบบอัลกอริธึม คุณสามารถใช้ expert advisors ของแพลตฟอร์มเพื่อทำการเทรดอัตโนมัติได้ด้วย
โบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่สุดคือโบรกเกอร์ใด
มีโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่สุด 2 แห่ง โบรกเกอร์แรกคือ XM ที่มีบัญชี Micro ซึ่งมีสเปรดต่ำและขนาดล็อตที่เล็กเพื่อช่วยให้มือใหม่ในการเทรด และพวกเขายังให้บริการแหล่งข้อมูลการศึกษาที่ดีเยี่ยมเช่น เว็บินาร์เพื่อเพิ่มความรู้ในการซื้อขายจากผู้เชี่ยวชาญของพวกเขา
โบรกเกอร์แห่งที่สองคือ eToro ซึ่งนำเสนอก copy trading ผ่านแพลตฟอร์ม CopyTrader ซึ่งมือใหม่สามารถใช้เพื่อคัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้
Disclaimer: The above is a contributor post, the views expressed are those of the contributor and do not represent the stand and views of Outlook Editorial.